การออกแบบคลีนรูมกับอัตราการหมุนเวียนอากาศ
องค์ประกอบหลักสำคัญในการออกแบบระบบคลีนรูมคือ อัตราการหมุนเวียนอากาศ ซึ่งหมายถึงจำนวนครั้งหรือรอบที่อากาศเก่าภายในห้องไหลเวียนออกและอากาศใหม่ไหลผ่านตัวกรองอากาศเข้ามาภายในห้องคลีนรูมหรือห้องสะอาด ต่อระยะเวลา 1 ชั่วโมง
โดยทั่วไปแล้ว เครื่องปรับอากาศที่เราใช้กันภายในที่อยู่อาศัย มีอัตราการหมุนเวียนอากาศอยู่ที่ 0.5 – 2 ครั้งต่อชั่วโมง ซึ่งต่างจากห้องคลีนรูมโดยสิ้นเชิง อัตราการหมุนเวียนอากาศของห้องคลีนรูมหรือห้องสะอาดจะขึ้นอยู่กับคลาสของห้องคลีนรูมนั้นๆ ดังตาราง
เพื่อควบคุมอนุภาคฝุ่นภายในคลีนรูมให้อยู่เกณฑ์มาตรฐาน ISO หรือ FED STD 209E การออกแบบอัตราการหมุนเวียนของอากาศจึงเป็นปัจจัยสำคัญ และเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่ระบบคลีนรูมโดยตรง กล่าวคือ การที่จะให้อากาศภายในห้องสะอาดได้นั้น จะต้องมีการไหลของอากาศดังนี้
1. มีการเติมอากาศใหม่ที่สะอาด (Fresh Air Supply) เข้าไปผสมกับอากาศเก่าภายในห้อง (Return Air) ในปล่องอากาศ เพื่อส่งเข้าไปแทนที่อากาศในห้องเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนเป็นวัฏจักร
2. การดูดอากาศเก่าภายในห้อง (Return Air) ต้องผ่านการกรองอากาศด้วยแผ่นกรอง (Air Filter) ก่อนที่จะไหลไปผสมกับอากาศใหม่ในปล่องอากาศ ซึ่งโดยส่วนมากแล้ว แผ่นกรองอากาศสำหรับรีเทิร์นแอร์จะอยู่ติดกับช่องรีเทิร์น
รูปภาพจำลองช่องรีเทิร์นแอร์
3. ก่อนที่อากาศจะถูกเติมเข้ามาภายในคลีนรูม อากาศจะต้องถูกกรองด้วย Pre Filter, Medium Filter, และ HEPA หรือ ULPA Filter ก่อนเสมอ
รูปภาพจำลองการหมุนเวียนของอากาศ
(รูปภาพจาก World Health Organization)
ดังนั้นยิ่งหากต้องการให้คลีนรูมมีความสะอาดมากเท่าไหร่ อัตราการหมุนเวียนอากาศก็ต้องเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งนั้นก็หมายถึงต้นทุนค่าติดตั้ง และค่าไฟที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากห้องที่มีอัตราการหมุนเวียนอากาศมาก ย่อมใช้ระบบปรับอากาศที่มีขนาดใหญ่กว่า
ด้วยประสบการณ์การออกแบบคลีนรูมมากว่า 19 ปี ทางทีมงานของเราจึงคำนึงถึงปัจจัยต่างๆอย่างครบถ้วน เพื่อให้กระบวนการผลิตของลูกค้ามีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้รวมไปขีดจำกัดของผู้ใช้ อาทิ ต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ อีกด้วย หากท่านสนใจจะสร้างคลีนรูมหรือปรับปรุง สามารถติดต่อขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญได้ที่ 02-751-1256 หรือ Add Line @Skill1999 ได้เลยค่ะ